top of page
ศาลาอเนกประสงค์_edited_edited_edited.jpg

วัดป่านาคำน้อย

วัดอุดมมงคลวนาราม

วัดป่านาคำน้อย เดิมชื่อ วัดอุดมมงคลวนาราม เป็นนามที่ได้รับเมตตาประทานจาก

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน แต่ต่อมาทางราชการมีแนวคิดเกี่ยวกับการตั้งชื่อวัด

ให้สอดคล้องกับชื่อหมู่บ้านที่ตั้งของวัด จึงได้ใช้นามว่า “วัดป่านาคำน้อย” ในปัจจุบัน

สถานที่ตั้งวัด ตั้งอยู่บ้านนาคำน้อย หมู่ที่ ๗ บ้านนาคำน้อย

ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี รหัสไปรษณีย์ ๔๑๓๘๐

มีพื้นที่ในปัจจุบัน ๑,๓๕๐ ไร่ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓

ประวัติการก่อตั้งวัด

วัดป่านาคำน้อย ได้รับการตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๒๙ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๓๑ ตามบัญชีรายชื่อวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา

งวดที่ ๖ ประจำปี ๒๕๓๐ ลำดับที่ ๓๖ วัดนาคำน้อย ตำบลบ้านก้อง อำเภอน้ำโสม (ในขณะนั้น) จังหวัดอุดรธานี ขนาดวิสุงคามสีมากว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๘๐ เมตร

ดังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๐๕ ตอนที่ ๑๔ วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๓๑ 

กองพุทธสถานกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๑ 

เพื่อดำเนินตามแนวทางที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

ได้เมตตาชี้แนะไว้ว่า “สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้สนใจภาวนาเพราะเป็นป่า เป็นเขาสงบสงัด”

สภาพก่อนที่จะต้องเป็นวัด

องค์หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก ขณะนั้นจำพรรษอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด

ได้ธุดงค์มาในเขตนี้เห็นว่าพื้นที่แห่งนี้ ในขณะนั้นเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านายูง และป่าน้ำโสม

มีสภาพทรุดโทรม และเป็นพื้นที่ป่าที่ได้รับสัมปทานไปแล้วหลายวาระ ประกอบกับเป็นพื้นที่สีแดง

อยู่ในเขตปฏิบัติการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย น่าจะได้รับการฟื้นฟูทั้งทางรูปธรรม

และนามธรรม โดยที่องค์หลวงพ่อได้เคยวิเวกมาในแถบนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ เป็นต้นมา หลายวาระด้วยกัน

 

จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้ธุดงค์มาอีกรอบหนึ่ง ในครั้งนี้ ได้ธุดงค์มาปักกลด

ณ บริเวณต้นกระท้อน ริมห้วยราง (ตรงบริเวณที่เป็นโรงครัวในปัจจุบัน) เห็นว่าเป็นสถานที่สัปปายะ

เหมาะสมกับการปฏิบัติสมณธรรม จึงได้นำคณะศรัทธาญาติโยมพุทธบริษัท 

ร่วมกันก่อสร้างเป็นสำนักปฏิบัติกรรมฐานดำเนินตาปฏิปทา

องค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ภายในบริเวณวัดวัด

สภาพป่าภายในบริเวณวัดเป็นป่าที่สมบูรณ์ประมาณ ๖๐๐ ไร่ แต่ได้รับการปลูกเสริมเพิ่มเติม

เช่น สัก ประดู่ มะค่า ยาง กระบาก ตะแบก ตะเคียนทอง เป็นต้น

ปัจจุบันได้ปลูกเสริมจนเต็มพื้นที่ จึงสามารถมองเห็นสภาพป่าดั้งเดิมและปลูกเสริมใหม่เจริญเติบโตร่วมกัน

 

สัตว์ป่าภายในวัด

เนื่องจากพื้นที่นี้แต่เดิมเป็นป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ จึงมีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่

เช่น หมูป่า กระรอก ค่าง ลิง ชะนี งูจงอาง งูเห่า เหี้ย กระจง นิ่ม และนกชนิดต่าง ๆ

สิ่งปลูกสร้างที่สำคัญภายในวัด

ภายในวัดประกอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสำคัญหลักๆเช่น

ศาลาอเนกประสงค์ ขนาด ๒ ชั้น พื้นที่กว้าง ๑๖ เมตร ยาว ๒๔ เมตร

เป็นสถานที่ที่พระสงฆ์ใช้ทำสังฆกรรม เป็นที่ฉันภัตตาหาร เป็นที่บำเพ็ญกุศลในโอกาสต่าง ๆ เป็นต้น

ศาลาศาลาพุทธอุดมมงคลธรรมสังฆสามัคคี เป็นศาลาชั้นเดียว ยกพื้น สร้างบริเวณตรงข้ามกับวัด

หรือสวนลำไย สร้างขึ้นเพื่อลดความแออัดและรองรับศรัทธาญาติโยมที่มาวัดเพิ่มมากขึ้น

และเป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของวัด

เช่น งานทำบุญรวมญาติ ซึ่งจัดตรงกับวันมาฆบูชาประจำทุกปี

งานทำบุญในวันคล้ายวันเกิดองค์หลวงพ่อ  ในวันที่ ๒๗ เมษายน ของทุกปี

และงานกฐินสามัคคีของทางวัด

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีกุฏิถาวร ประมาณ ๑๕ หลัง และร้านพักพระประมาณ ๔๐ หลัง

โรงน้ำร้อน โรงครัว และที่พักฝ่ายอุบาสก อุบาสิกาจำนวน รวม ๑๔ หลัง

และถนนคอนกรีตเชื่อมโยงภายในวัดรวมเส้นทางกว่า ๔ กม.

เมตตาจากองค์หลวงตา

องค์หลวงตาได้มีเมตตาต่อวัดป่านาคำน้อยอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือ

การสร้างกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดความสูง ๒.๓๕ เมตร ยาว ๖.๗๕ กิโลเมตร

ครอบคลุมพื้นที่ ๑,๓๕๐ ไร่ มูลค่า ๒๐ ล้านบาทเศษ ( พ.ศ. ๒๕๓๘)

และฝายน้ำล้น ฝายเก็บกักน้ำหลายแห่งภายในวัด

ได้รับเมตตาอุปถัมภ์ในการก่อสร้าง จากองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ที่ได้มาอาศัยอยู่ให้ได้รับความร่มเย็นตาม อัตภาพ

 

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน

เป็นที่ตั้งของลูกข่าย สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน

รับสัญญาณจากสถานีแม่ข่ายจากวัดป่าบ้านตาด ขนาดคลื่นความถี่ ๑๐๗.๒๕ MHZ

ครอบคลุม พื้นที่อำเภอบ้านผือ น้ำโสม นายูง (จังหวัดอุดรธานี) สุวรรณคูหา (จังหวัดหนองบัวลำภู) สังคม(จังหวัดหนองคาย) และจังหวัดเลยบางส่วน

 

จำนวนพระสงฆ์จำพรรษา

ในแต่ละปีจะมีพระสงฆ์จำพรรษา ประมาณ ๓๐-๔๐ รูป

โดยแต่ละช่วงตลอดปีจะมีพระสงฆ์จากกรุงเทพฯ มาพำนักปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ

เช่น วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธฯ เป็นต้น ในฤดูจำพรรษา ก็จะมีอุบาสกอุบาสิกามาอยู่จำศีลอยู่เสมอ 

14_edited.jpg
bottom of page